“สุริยะ” เข้าใจ “กทพ.” ชะลอสร้าง “ทางด่วนใต้ดิน” ลงทุนสูง ไม่คุ้ม

“สุริยะ” ไฟเขียว “กทพ.” ชะลอสร้างอุโมงค์ทางด่วนใต้ดินสายแรกของไทย ผลศึกษาไม่คุ้ม ใช้เงินลงทุนสูงมาก “คมนาคม-กทพ.” เร่งถกหาทางเลือกอื่นสร้างทางด่วน N1 ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ 10.55 กม.

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานผลการศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือระยะที่ 2 (ส่วนทดแทนตอน N1 ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ระยะทาง 10.55 กิโลเมตร(กม.) จากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) ในเบื้องต้นแล้ว พบว่า ผลตอบแทนทางการเงินไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งในเมื่อ กทพ. พิจารณาแล้วว่า ไม่คุ้มค่าก็ต้องเป็นไปตามนั้น โดย กทพ. เป็นหน่วยงานที่จะลงทุนอะไร ก็ต้องมีความคุ้มค่าทางการเงินด้วยไม่ใช่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงเห็นชอบให้ชะลอโครงการฯ ไปก่อน แต่ยังไม่ได้ยกเลิกโครงการฯ

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า หากจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ เพื่อให้คุ้มทุนทางเศรษฐกิจ กระทรวงคมนาคมก็ต้องหางบประมาณมาสนับสนุนจำนวนมาก ซึ่งพิจารณาแล้วทั้งการก่อสร้าง และการบำรุงรักษา ไม่คุ้มมากๆ อย่างไรก็ตามเวลานี้กระทรวงคมนาคม และกทพ. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และหาทางเลือกอื่นๆ แทนการสร้างอุโมงค์ทางด่วนใต้ดิน ซึ่งใช้วงเงินในการลงทุนค่อนข้างสูงมาก โดยเมื่อได้ข้อสรุปแนวทางอื่นแล้ว ได้ให้กลับมารายงานตน เพื่อพิจารณาอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ระยะที่ 2 (ส่วนทดแทนตอน N1 ศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ระยะทาง 10.55 กม. ขณะนี้การศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงินและผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้วเสร็จ แต่จากการพิจารณาผลการศึกษาฯ พบว่า เนื่องจากใช้วงเงินลงทุนในการก่อสร้างสูง เพราะเป็นอุโมงค์ใต้ดิน ขณะที่ผลตอบแทนทางการเงินก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ขณะเดียวกันก็ยังมีเสียงร้องเรียนจากชาวบ้านจำนวนมาก จึงจะชะลอโครงการนี้ไปก่อน แต่ยังไม่ได้ยกเลิก จะรอปริมาณผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งทางเลือกอื่นๆ ซึ่งจะมีการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมต่อไป

โครงการทางด่วน N1 มีจุดเริ่มต้นบริเวณทางด่วนศรีรัชตัดกับถนนงามวงศ์วาน แนวสายทางไปตามแนวถนนงามวงศ์วาน ผ่านแยกพงษ์เพชร แยกบางเขน แยกเกษตร เข้าถนนประเสริฐมนูกิจ เชื่อมต่อกับตอน N2 ถนนประเสริฐมนูกิจ-ถนนวงแหวนรอบนอกฯ มีระยะทางประมาณ 10.55 กม. โดยเป็นอุโมงค์ใต้ดิน ระยะทาง 8.06 กม. และเป็นทางยกระดับ 2.49 กม. เบื้องต้นโครงการมีวงเงินรวม 49,220 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 44,532 ล้านบาท, ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน 3,615 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้าง 1,065 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเดิมจะเสนอ ครม. อนุมัติโครงการในปี 68 เริ่มก่อสร้างปี 69 แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการในปี 74 โดยจะเป็นทางด่วนใต้ดินสายแรกของประเทศไทย

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ กทพ. มีแผนจะก่อสร้างเป็นทางยกระดับ วงเงินประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท แต่ต้องมีการเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างเป็นอุโมงค์ทางลอดใต้ดิน เนื่องจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความกังวลในเรื่องผลกระทบด้านมลพิษสิ่งแวดล้อม ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมทั้งเสียงดังด้วย